Welcome To Blog Reading & writing วัย 0+

วันพฤหัสบดีที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

“ ความซื่อสัตย์ ( Integrity ) ” ในการทำงาน .... สำคัญไฉน

“ ความซื่อสัตย์ ( Integrity ) ” ในการทำงาน .... สำคัญไฉน
          ก่อนอื่นต้องถามตัวคุณเองก่อนว่า คุณมีความซื่อสัตย์ ( Integrity) ในการทำงานมากน้อยแค่ไหน และแน่นอนว่าคงจะไม่มีใครตอบว่าตนเองไม่มีความซื่อสัตย์ ความซื่อสัตย์จึงเป็นคุณลักษณะที่สำคัญและเป็นที่ต้องการในทุกองค์การ ซึ่งความซื่อสัตย์นอกจากจะหมายถึงการ รักษาความลับ ผลประโยชน์ และทรัพย์สินต่าง ๆ ของบริษัทแล้ว ความซื่อสัตย์ยังหมายรวมไปถึงการให้ข้อมูลที่ถูกต้องและไม่บิดเบือนจากความเป็นจริง และการปฏิบัติตามระเบียบหรือกฎของบริษัท และยังพบว่าอีกว่ามีหลายองค์การได้กำหนดความซื่อสัตย์เป็นวัฒนธรรมองค์การ (Corporate Culture) หรือคุณค่าร่วม ( Core Value) ที่เกี่ยวข้องกับความคิดความเชื่อที่อยากให้พนักงานทุกคนปฏิบัติ
          แล้วทำไมคุณจะต้องมีความซื่อสัตย์ในการทำงาน ..... ความซื่อสัตย์ในการทำงานจะส่งผลโดยตรงต่อคุณลักษณะส่วนบุคคล ( Personal Attribute) ของตัวคุณเองที่คนอื่นมองหรือรับรู้ในตัวคุณว่าเป็นคนที่มีความซื่อสัตย์หรือไม่ นอกจากนี้ยังรวมไปถึงผลต่อเนื่องไปยังหน่วยงานและองค์การของคุณเอง ทั้งนี้คุณลักษณะของความซื่อสัตย์จะมีความสำคัญและส่งผลต่อตัวคุณและต่อหน่วยงานหรือองค์การของคุณ ขอสรุปได้ดังต่อไปนี้
          1. การได้รับ ความไว้วางใจ จากหัวหน้างานของคุณ พนักงานที่มีความซื่อสัตย์ย่อมทำให้หัวหน้างานพร้อมและกล้าพอที่จะมอบหมายงานที่สำคัญหรือเป็นความลับของบริษัทให้กับคุณ เพราะหัวหน้าไว้วางใจตัวคุณเพราะรู้ว่างานที่มอบหมายให้ไปนั้นคุณต้องทำเสร็จและข้อมูลที่คุณทำนั้นมีความถูกต้องอย่างแน่นอน
          2. ความน่าเชื่อถือ ได้ของตัวคุณ คุณจะได้รับการยอมรับและการกล่าวถึงในทางที่ดีจากบุคคลรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นหัวหน้างาน เพื่อนร่วมงาน ลูกน้อง หรือแม้กระทั่งลูกค้าของคุณเอง เช่น ยอมรับว่าคุณมีความรับผิดชอบและความตั้งใจทำงาน เนื่องจากคุณไม่เคยที่จะขาดงานหรือมาสาย รวมทั้งข้อมูลที่คุณให้นั้นมีความถูกต้องและเป็นปัจจุบันเสมอ
          3. สร้างผลงาน ( Performance) ของตัวคุณ ความซื่อสัตย์ทำให้คุณมีโอกาสทำงานใหญ่หรือสำคัญ ซึ่งอาจเป็นงานที่มีผลกระทบต่อหน่วยงานหรือองค์การ โดยคุณจะมีโอกาสแสดงฝีมือการทำงานของคุณและโอกาสนี้เองย่อมจะส่งผลต่อเนื่องไปยังผลผลการปฏิบัติงาน     ( Performance) และมูลค่าเพิ่ม ( Added Value) ของตัวคุณเอง
          4. รักษาผลประโยชน์ของหน่วยงาน/บริษัท หากคุณมีความซื่อสัตย์แล้วล่ะก็ ย่อมหมายถึงคุณไม่ได้เอาเปรียบหน่วยงานและบริษัท เนื่องจากคุณทำงานอย่างเต็มที่ ได้ปฏิบัติตามระเบียบและรักษาทรัพย์สินของบริษัท และรวมถึงคุณไม่เอาความลับของบริษัทไปเปิดเผยให้คู่แข่งรับรู้ ซึ่งหมายถึงคุณกำลังรักษาผลประโยชน์ให้กับหน่วยงานและบริษัทของคุณเอง

Laughter To Mrs.Yeer

Gifts For A Teacher
It was at the end of the school year, and a kindergarten teacher was receiving gifts from her pupils.
เป็นเวลาใกล้จะปิดภาคเรียน และคุณครูของเด็กอนุบาลก็ได้รับของขวัญจากลูกศิษย์ของเธอ
The florist's son handed her a gift.
ลูกชายของเจ้าของร้านขายดอกไม้ ก็ยื่นของขวัญให้เธอ
She shook it, held it overhead, and said
เธอเขย่า และยกขึ้นเหนือศีรษะ และพูดว่า,
"I bet I know what it is. Some flowers.
" ครูพนันได้เลยว่ามันคงเป็นดอกไม้
"That's right" the boy said,
ถูกต้องแล้วครับ เด็กชายพูด
"but how did you know?"
ครูรู้ได้ไงเหรอ
"Oh, just a wild guess," she said.
ครูก็แค่เดาเอา คุณครูพูด
The next pupil was the candy shop owner's daughter.
ลูกศิษย์คนต่อไป เป็นลูกสาวของร้านขายขนมหวาน
The teacher held her gift overhead, shook it, and said,
คุณครูก็ยกของขวัญขึ้นเหนือศีรษะ เขย่า และพูดว่า
"I bet I can guess what it is. A box of sweets."
ครูพนันได้เลยว่านี่เป็นกล่องขนมหวาน
 "That's right, but how did you know?" asked the girl.
ถูกต้องค่ะครูรู้ได้ไงคะ เด็กหญิงถาม
"Oh, just a wild guess," said the teacher.
ครูก็แค่เดาเอา ครูพูด
The next gift was from the son of the liquor store owner.
คนต่อไปเป็น ลูกชายของเจ้าของโรงเหล้า The teacher held the package overhead,
คุณครูก็ยกกล่องขึ้นเหนือศีรษะ but it was leaking.
แต่มันมีน้ำไหลซึมออกมา
She touched a drop of the leakage with her finger and touched it to her tongue.
เธอใช้มือแตะน้ำที่ซึมอยู่ และนำไปแตะที่ลิ้นของเธอ
"Is it wine?" she asked.
มันเป็นไวน์ใช่ไหม เธอถาม "No," the boy replied.
ไม่ใช่ครับ เด็กชายตอบ  
The teacher repeated the process, taking a larger drop of the leakage to her tongue.
คุณครู ก็ลองอีกครัง โดยการใช้ลิ้นเลียหลดที่ใหญ่กว่าเดิม
"Is it champagne?"
มันคือแชมเปนจ์ ใช่ไหม
she asked. "No," the boy replied,
ไม่ใช่ครับ The teacher took one more taste before declaring,
คุณครูก็เลียไปอีกหยด ก่อนจะเฉลย
"I give up, what is it?"
ครูยอมแพ้แล้วมันคืออะไรเหรอ "It's a puppy!"
ลูกหมาครับ